-๓- นครนายก -- เบื้องหน้า เบื้องหลัง
ถ้ามีคนบอกว่า เราเป็นคนมีเบื้องหน้า เบื้องหลัง เราจะต้องโกรธถึงขั้นลงไม้ลงมือมั้ยเนี๊ยะ เพราะมันเป็นเรื่องจริง
ก็ฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ใน เวิร์คช๊อฟนี้จริงๆ งานนี้ก็มีมืออาชีพ ทั้งนั้น ฉันไม่น่าต้องกังวลอะไร น่าจะชิวๆ กับกระบวนการ แต่งานนี้ถือเป็นครั้งแรกของทีมนี้
-เบื้องหลัง เปลือยกระบวนกร-
กระบวนการ 3 วันที่อยู่ร่วมกัน วันแรกๆ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า กำลังกินก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ผสมเนื้อสด รสเผ็ดๆ ที่ทำให้สมองมึนชาไปได้
อาประสาทเป็นประเภทเนื้อสด ไม่ต้องถามว่าจะทำอะไร ทำไปทำไม เพราะอะไร ไหลมาแบบสดๆ
ศรชัยที่ฉันเคยร่วมงานด้วยเหมือนหมูตุ๋น วัชระองค์ความรู้เฉียบขาด สร้างสรรกิจกรรม ต้องพูดคุยกันจนตกผลึก
งานนี้ฉันกับน้ำ อยู่ระหว่าง 2 รสชาด แล้วความสดของกระบวนกรหลัก อย่างอาประสาท และหมูตุ๋นอย่างศรชัย ที่น่าจะพูดคุยจนตกผลึก ทำให้ฉันต้องหาเอาเองว่าฉันจะเป็นอะไร เวิร์คชอปนี้ถึงกลมกล่อม
วันแรกของฉันเลยมีอาการเหมือนกินก๋วยเตี๋ยวที่เนื้อสดเกินไป หมูตุ๋นยังไม่ได้ที่ เผ็ดจนมึน ความเผ็ดนี่ไม่รู้มาจากอาจารย์นิด กับอาจารย์แอน หรือเปล่าที่มีพลังในการพูดคุย เพื่อสร้างสรรงานนี้ให้กับลูกศิษย์อย่างเต็มกำลัง งานนี้หลังกระบวนการวันแรก ฉันเลยสะท้อนว่ายกให้น้ำเป็นกระบวนกรหลักไปเลย น้ำน่าจะรู้ว่า ผู้เข้าร่วมซึ่งเป็นวัยเดียวกันกับน้ำ ต้องการอะไร และความที่ต้องการปรุงแต่งรสชาด เพราะรู้สึกว่า จะทำอะไรดีวะเนี๊ยะ เลยโยนตัวกวนให้ตัวเองซะอย่างงั้น แล้วเราตอนเป็น นศ.ปี 3 ปี 4 นี่ชีวิตเป็นอย่างไร ต้องการอะไร เผื่อได้คำตอบเด็ดๆ คิดไว้อย่างนั้น
วันที่ 2 ฉันเลยได้ติดเรด้าร์ ฝีมือ อาจารย์หมอระบบประสาท รามา ฝังเข็มบนหัวเพื่อความผ่อนคลาย บางครั้งกระบวนกร ก็ต้องให้ผู้เข้าร่วมทำให้ผ่อนคลายเหมือนกัน
วันนี้ รสชาดก๋วยเตี๋ยว กลมกล่อมขึ้น มีบทพิสูจน์ทางดนตรีเกิดขึ้นว่าเพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้องก็สามารถสื่อสารให้ผู้ฟัง รับรู้เรื่องราวได้
อาประสาทนั่งเล่นกีตาร์ ศรชัยเป่าขลุ่ย เล่นดนตรีนำพาปลุกเด็กน้อยของเหล่าวัยรุ่นที่มาเข้าค่ายครั้งนี้ บรรเลงจบอาประสาท ยิงคำถามสุดฮิตประจำเวิรค์ช๊อฟครั้งนี้ "ฟังแล้ว รู้สึกอย่างไร" มีน้องผู้หญิงบอกเล่าความรู้สึกว่า "ช่วงแรกรู้สึกว่า เหมือนคน 2 คนกำลังคุยกัน ช่วงกลางคน 2 คนก็ตัดพ้อต่อว่ากัน พอสักพักช่วงหลังก็เหมือนคน 2 คนเข้าใจกัน หนูไม่รู้ว่าหนูคิดมากไปหรือเปล่า " แต่ฉันเรียนรู้แล้วว่า ภาษาดนตรีสามารถสื่อสารได้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ต้องมีคำร้องประกอบทำนองประมาณนั้น เพราะฉันก็รู้สึกเหมือนน้องเช่นกัน การตัดพ้อก็เหมือนก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นที่ยังไม่ได้ที่ เนื้อสดก็สดเกินไป แต่วันนี้มันกำลังกลมกล่อมก็เหมือนการเข้ากันได้ดีนั่นเอง
แล้วฉันกับน้ำทำอะไร
น้ำ "พี่นก 2 คนนี้เขาเข้ากันได้ดีน่ะ"
นก "อืม"
น้ำ "เขาบรรเลงไปไกลแล้ว เราคงต้องหยุดคิด แล้วบรรเลงตามเขาไปดีกว่า"
นก "อืม"
จริงอย่างน้ำว่า สิ่งที่อยู่ในหัวของฉันยิ่งน้อยลง ฉันเพียงโยนตัวกวน ลงไปในหมู่กระบวนกรเหลืออยู่ประเด็นเดียวเท่านั้นคือ จงดูแลวาระของผู้เข้าร่วมให้มากที่สุด อย่าเพียงดูวาระของผู้ใหญ่ที่เป็นผู้จัด หรือวาระของกระบวนกรที่พยายามหยิบยื่นสิ่งดีจนเขาไม่ได้สมัครใจจะเรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิต กระบวนกรเป็นเพียงผู้นำพาการเรียนรู้ เฝ้าดูสภาวะที่เกิดขึ้น และทิ้งช่วงเวลาแห่งการใคร่ครวญให้มากพอ ฉันอาจเป็นชามก๋วยเตี๋ยว ที่มีน้ำเป็นน้ำซุปที่กลมกล่อม งานนี้จึงลุล่วงเพราะเราเป็นส่วนประกอบที่ครบเครื่องให้เขาได้มีโอกาสกินก๋วยเตี๋ยวใส่ทุกอย่างปรุงรสอย่างที่เขาต้องการอย่างเอร็ดอร่อย แบบที่ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน (อันนี้โม้นิดหน่อย)
หากเบื้องหน้าของกระบวนกรเป็นการตระเตรียมพื้นที่ และนำพาให้ผู้เข้าร่วมได้เกิดการเรียนรู้แล้วจะมีประโยชน์อันใดหากหมู่กระบวนกรไม่มีเบื้องหลังคือการเรียนรู้ จากกระบวนการที่เราทำร่วมกันเลย (๕๕๕๕ อันนี้หยอดไว้ออกตัว ขออนุญาตเปลือยเหล่ากระบวนกร)
เมตตา..ตัวเอง
14 ปีที่ผ่านมา