เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นในวงสนทนา YCL....นั่นใช่ dialogue หรือไม่?
การพูดคุยเพื่อตัดสินใจในการจะทำอะไรร่วมกันสักอย่างหนึ่ง การพูดคุยเริ่มต้นกันอย่างระแวดระวัง พูดคุยอย่างเกรงใจ พูดถึงความคิดเห็นที่สื่อออกมาผ่านภาษาในลักษณะไม่ว่าใครไม่มีใครถูกใครผิดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น การพูดคุยผ่านไปถึงจุดหนึ่ง การพูดคุยถูกผลักให้แสดงถึงความคิดเห็นหรือความรู้สึกที่ลึกลงไปมากกว่าภาษา เพื่อเปิดเจตนาของผู้คนในกลุ่ม และลดความเกรงอกเกรงใจกัน การเปิดพื้นที่ให้เกิดการปลอดภัยพอ ตรงนี้ใช้ความกล้าและจริงใจของผู้คนมากพอที่จะแสดงเจตนาตรงนี้ว่า วงมีความคิดเห็นแตกต่างกันเป็น 2 กลุ่มคือกลุ่มหนึ่งเชื่อมั่นว่า dialogue ดี และ อีกกลุ่มหนึ่งคือไม่เชื่อมั่นกับ dialogue ระดับการสนทนาเริ่มลงลึกเบื้องหลังภาษา ไปสู่อารมณ์หรือความรู้สึกที่แสดงออกมาผ่านเรื่องเล่า ประสบการณ์ที่ตนเองเจอ แสดงบางอย่างให้เห็นว่าความต่างแต่เบื้องต้นนั้น ไม่ใช่ไม่เชื่อมั่น dialogue แต่เป็นความรู้สึก ความกังวลผลของการทำกระบวนการว่าจะออกมาดีหรือไม่ หากผู้เข้าร่วมไม่ได้ตระเตรียมตัวมาเพื่อทำการ dialogue จะรับไม่ได้ ความกังวลของกระบวนการที่ต้องเป็นกระบวนกรเพื่อนำพาผู้คนเพื่อการเรียนรู้เพราะไม่เคยทำ จนถึงความกังวลต่อผลกระทบต่อผู้คนที่เกี่ยวข้อง...และอื่นๆ อีกมากมาย จนถึงการขมวดเกลียวได้ข้อสรุปอย่างพอดี และเห็นเหมือนกันทั้งที่มีการเริ่มต้นจากความคิดต่าง เป็นการเลื่อนไหล ไต่ระดับการพูดคุยอย่างลงลึกนี่คือ dialogue ...ใช่หรือไม่....
หากเราสืบค้นจากการพูดคุยข้างต้น เป็นการเริ่มต้นการทำบางอย่างที่เราไม่คุ้นชิน การเริ่มต้นที่เราจะทำอะไรที่ไม่เคยทำ เป็นการออกจาก comfort zone หรือออกจากไข่แดง มันมักมีอาการเสียวๆ หรือกังวลแบบนี้นี่แหละใช่แล้ว แล้วเบื้องหลังความกังวลเหล่านั้น คือเสื้อเกราะตัวไหนที่เหล่านักธุรกิจใส่อยู่,...(ป้อมพูดถึงการเป็น CEO)
การเริ่มต้นครั้งนี้สำหรับผู้จัด (YCL NW) นกนึกถึงการได้ยินเสียงตนเองก่อน รู้จักเสื้อเกราะที่ตัวเองสวมใส่ไว้ก่อน จากนั้นค่อยๆ ถอด แบบค่อยๆ เริ่มสัมผัสแบบแผนพลังภายในแบบที่ไม่มีเสื้อเกราะบางส่วน เริ่มฝืนเล็กๆ ก็น่าจะเป็นการเริ่มต้นบ่มเพาะ ความเป็นปกติ ในชีวิตประจำวัน จนถึงเข้าไปสัมผัสสภาวะที่เหมาะกับการเรียนรู้ที่ดีที่สุดของตนคือ Optimum Learning State นั่นเอง การเริ่มต้นที่จะวางใจตนเอง และวางใจผู้อื่น เป็นการหัดเต้นรำ หรือหายใจให้เป็นลมหายใจเดียวกันของเหล่ากระบวนกรนั่นเอง แล้วนักธุรกิจเหล่านี้ต้องเต้นรำกับผู้อื่นบ้างหรือไม่อย่างไร
อันนี้ใช่การเรียนรู้ด้วยใจใคร่ครวญสำหรับนักธุรกิจ หรือเปล่า
เมตตา..ตัวเอง
14 ปีที่ผ่านมา