วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ปรัชญาองค์กร ปรัชญาชีวิต...เจ้าบ้านมีหรือ??

จุดเริ่มต้น จุดเล็กๆ มีขอบเขตเพื่อให้คุณมองเห็นให้คุณทำได้
สร้างแรงบันดาลใจ และกำลังใจ ให้พิสูจน์ว่า เมื่อผีเสื้อขยับปีก องคาพยัพ จะเกิดขึ้นกับโลกทั้งใบ
เมื่อนั้น โลกทั้งโลกจะกว้างใหญ่ ได้เท่าสิ่งที่คุณเชื่อ
เพราะขอบเขต หรือรั้ว เป็นสิ่งที่คุณกำหนดและวาดไว้เอง ไม่ใช่ใครอื่น

บ้านที่ไร้รั้วจึงเริ่มต้นที่ฉัน การเดินทาง แต่ละย่างก้าวที่เดินไป เมื่อไหร่ที่เห็น ...ฉัน
ฉันก็ปักรั้ว ไว้ที่ตรงนั้นการก้าวข้ามรั้ว เป็นรสชาด และการเติบโตของชีวิต
การเดินต่อ จึงเป็นการอยู่อย่างมีความหมายที่ควรค่าแก่การเกิดมา
เพราะสุดท้ายก็ต้องมลายไป เหมือนๆ กัน

น้ำไหลนิ่ง..

วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552

(1-event) เข้าใจสังคม..กับอนาคตของชาติ

(1-event) เข้าใจสังคม..กับอนาคตของชาติ

ค่ำคืนหนึ่ง(1-10-09) กับวงสนทนาสบายๆ

การสนทนากับความคิดที่หลากหลาย
ตัวแทนของประชาชน แสนเก่งมองไปข้างหน้า สร้างและสร้างเพื่อความเจริญของประเทศ บางอย่างไม่สำคัญพอทีจะต้องลงไปทำ ผ่านแล้วก็ผ่านไป
นักการเมืองท้องถิ่นผู้จริงจัง ความขัดแย้งไม่ใช่ของเล่น ทำเท่าที่ทำได้ ทำที่เหลือให้เป็นประโยชน์ อย่าย้อนกลับสิ่งที่ผ่านไป อดีตกลายเป็นหอก เป็นมีดทิ่มแทงกันไป
นักธุรกิจผู้เอื้อเฟื้อต่อสังคมอย่างเป็นกลาง แต่ยืนคนละข้างกับอีกกลุ่มอย่างช่วยไม่ได้ สร้างพื้นที่เรียนรู้ได้ไหม อดีตที่พูดกลายเป็นอารมณ์ที่ชอกช้ำ
นักเรียนรู้ ถอดบทเรียนกับอดีตที่ผ่านมา สร้าง software ก่อน hardware ขอย้ำ ๆ

บางคนอาจสวมสถานะ ไว้มากกว่าหนึ่ง
การคุยกันของคนประมาณ 10 คน
อาจเป็นจุลจักรวาล ของสังคมเมือง อันเป็นจักรวาลได้ทีเดียว

นั่งฟังๆ ไปก็ เอ..คุยเรื่องเดียวกันหรือปล่าว หว่า
เออ อย่างน้อยก็มีแต่ความปรารถนาดีต่อสังคม
แต่ถ้าคุยกัน คิดกันอย่างนี้ มีอย่างเดียว
...
ต้องต่างคนต่างทำ
...
ตกผลึก..กับพบว่า มันก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้วนี่หว่า
สังคมมันถึงเป็นอย่างนี้ นี่ไง
ตัวแทนของประชาชน และนักธุรกิจมองไปข้างหน้า กับอำนาจ ได้ผลประโยชน์กับปัจจุบัน ฝันถึงอนาคต อดีตช่างมัน
ไม่คิดเรียนรู้บทเรียน จากอดีต
หรืออาจจะเรียนก็ได้ เพราะฉลาดเป็นปัจเจก เรียนรู้ได้เฉพาะตน
แต่ไม่อนุเคราะห์ต่อสังคม

ข้าราชการที่ต้องทำงานกับประชาชนก็ทำตามหน้าที่ ทำบ้าง ไม่ทำบ้าง

ที่เหลือ ตาสี ตาสา เด็ก เยาวชน ผู้น้อย ..เชื่อ แบบหมาหางด้วน ไม่โง่ ก็เหมือนโง่ เพราะไม่เท่าทัน
อนาคตของชาติ จะเป็นอย่างไรหว่า

คนข้างบนวิ่งไปข้างหน้า
คนกลาง ก็เอาเท้าราน้ำ
คนข้างล่าง ก็อยู่กับที่ หรือไม่ก็ถอยหลังเข้าคลอง


และฉันจึงได้คำตอบ ฉันจะทำอะไร
สร้างคน ให้คนมีปัญญา เพื่อเท่าทันกัน
ส่วนอะไรจะเกิดขึ้น คงต้องเชื่อว่า เขาจะมีวิจารณญานในการเลือก ฟัง ดู และทำ ให้กับตัวเขาและสังคม
ก็แค่นี้เอง...ง่ายจะตายไป


นก

ปล.

แค่สายหนึ่งของความคิด ที่ผ่านมา
เป็นความคิดชั่วขณะหนึ่ง อาจไม่ถูกทั้งหมด
และไม่คงทนถาวร
....
ไม่ได้มีเจตนาว่าวิธีคิดของคนอื่นเป็นเช่นไร
แต่คิดว่าได้เรียนรู้ กับสายความคิดนี้และเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของตัวเอง
ทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ว่าจะทำอะไร
ขอบคุณทุกคนที่นั่งคุยกันคืนนั้นค่ะ

และขอโทษด้วยหากกระทบตัวตนใครโดยไม่เจตนา
(ตัววิจารณ์ออก กลัวไปกระทบคนอื่นมากไป)