วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ถอดบทเรียนคาร์ฟูร์ ตอน ทางเลือก ด้วยความขอบคุณและด้วยความเป็นดั่งพี่น้องกัน

มันไม่ง่ายเลย ที่จะทำได้อย่างแนวทางที่เรายึดถือไว้
หากมีสถานการณ์ เกิดขึ้นแล้วเราเลือกทำอย่างไร นั่นคือประสบการณ์ที่บอกว่าได้ทำตามแนวทางที่ยึดถือไว้หรือเปล่า
เลือกที่จะอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรหากไม่เห็นด้วย
หรือไม่รู้จะทำอะไร

สถานการณ์คาร์ฟูร์ เป็นอีกหนึ่งที่พิสูจน์

ตอนแรกรู้สึกแปลกๆ ที่อยู่ร่วมกับกลุ่มที่มีการแสดงออกเช่นเขียนป้าย ต่อการไม่เห็นด้วย ตอนแรกคิดว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเจอ และรู้สึกว่าไม่ชอบอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งเป็นส่วนตัวเลยมีความรู้สึกไม่ออกความคิดเห็นมากมายอะไร

เมื่อคืนวันพุธก่อน ที่ยกเลิกการเขียนป้าย คัดค้าน คาร์ฟูร์
เปลี่ยนแนวเป็นการเขียนป้ายบอกให้รู้ว่า เราขอให้ใช้พื้นที่สาธารณะกุศลให้มีประโยชน์มากกว่า แหล่งช้อปปิ้ง
ก็เออ รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
และเชียร์ ไปอีกหากใช้พื้นที่สร้างโรงพยาบาล
และไม่แสดงความคิดเห็นอื่นที่กลุ่มจะดำเนินการ
แต่ก็รู้สึกว่าอยู่บนการทำการที่แสดงความขัดแย้ง
และต่อว่าฝ่ายตรงข้ามที่คิดต่าง

แต่นกมีตัวอย่างที่พบว่า มีทางอื่นอีก

ไถ่ ติช นัท ฮันห์ เขียนไว้ว่า

ประสบการณ์สงครามหลายครั้งในเวียดนาม ให้ฉันเชื่ออย่างหนักแน่นว่า การก่อการร้ายนั้นไม่สามารถระงับได้โดยการใช้กำลัง
และการฟังอย่างลึกซึ้งนั้นทรงพลังมากกว่าลูกระเบิดทั้งหลาย การก่อการร้ายเกิดขึ้นจากความคิดเห็นที่ผิด ผู้ก่อการร้ายมีความคิดเห็นที่ผิดเกี่ยวกับตัวของพวกเขาเอง และพวกเขาก็มีความคิดเห็นที่ผิดต่อพวกเราด้วย นี่คือเหตุผลที่พวกเขาต้องการทำลายและลงโทษพวกเรา ถ้าเรารู้วิธีที่เขาคิด วิธีที่เขารับรู้สิ่งต่างๆ เราจะสามารถช่วยเขาถอดถอนความคิดเห็นที่ผิดเหล่านี้ได้ งานของการถอดถอนความคิดเห็นที่ผิดนี้ คือรากฐานแห่งการแปรเปลี่ยนความรุนแรง และการก่อการร้าย อีกทั้งยังเป็นการหล่อเลี้ยงสันติภาพให้งอกงาม
.....
น่าเสียดายว่า นักการเมืองเราไม่คุ้นเคยกับการฝึกปฏิบัติแบบนี้ และแนวคิดร่วมของสังคมที่คิดว่าอำนาจที่เรามี คืออำนาจทางการเงินและทางการทหารเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วเรายังมีอำนาจประเภทอื่นๆอีกด้วย สหรัฐอเมริกาเองก็มีอำนาจแห่งความเข้าใจและอำนาจแห่งความกรุณา หากเขารู้จักเลือกที่จะใช้อำนาจเหล่านี้ ในสหรัฐอเมริกามีผู้คนจำนวนมากมายที่มีปัญญา มีความเข้าใจ และความกรุณา หากเพียงพวกเขาเพียงพร้อมใจกันออกมาแสดงความห่วงใยและเสนอทางออก เราย่อมผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความยากลำบากนี้ไปได้
......
ไถ่ ใช้วิธีเขียนจดหมายรักถึงประธานาธิบดี จอร์จ ดับบลิว บุช ผู้ทรงเกียรติ
และขอบคุณที่อ่านจดหมายนี้
ด้วยความขอบคุณและด้วยความเป็นดั่งพี่น้องกัน
p 202-201

ท่านว่าเขียนยากกว่าจดหมายประท้วง
จาก The Art of Power p.194-201

ขออนุญาติอีกครั้งที่ส่งให้เฉพาะผู้คนที่ฝึก dialogue เป็นวิถี เพราะยังคงเป็นการเขียน ย้ำการเขียนนี่ตีความได้หลากหลาย
และเรื่องคาร์ฟูร์นี้เป็นเรื่องเร่งด่วน และมีการใช้พลังขับเคลื่อนในกลุ่ม YCL
อาจเป็นอีกแนวทางหนึ่ง

ที่สำคัญได้แต่พูด ยังไม่ได้ทำ และไม่เคยทำ

นกเริ่มเชื่อแล้ว เมืองไทยสบายเกินไป เรื่องความเมตตากรุณา สุดยอดยุคนี้จึงเป็น ชาวเวียดนาม หรือชาวฑิเบต ผู้ซึ่งผ่านประสบการณ์ความรุนแรงในชีวิต

นกอยากให้อ่านจดหมายที่ไถ่เขียนจัง
เผื่อมีคนอยากเขียนจดหมายรักถึง กรรมการมูลนิธิ หรือ สท.
ใครเห็นว่าเป็นไง

นกฝึกบิน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น