วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

โฮลอน..รักษาหัวใจกับสมอง..รักษาทีม

เมื่อคืนวันถอดประสบการณ์การเดินทางไปเหนือของ BCL กับ อจ.นิกร

มีการเรียนรู้และพูดถึง หัวใจ กับ สมอง หากรักษา 2 สิ่งนี้ก็จะทำให้มีชีวิตรอดได้
หากสิ่งหนึ่งสิ่งใด ตาย ก็เท่ากับไม่มีชีวิต ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้

จริงๆ เป็นการพูดเหมือนเปรียบเปรย

แต่เรากำลังพูดถึงความจริง พูดถึงสิ่งมีชีวิต พูดถึงทีม ถึงองค์กร ที่การบริหารจัดการแบบกระบวนทัศน์ใหม่ วิทยาศาสตร์ใหม่ เขากำลังพูด และพยายามทำให้เกิด สิ่งที่เรียกว่า องค์กรมีชีวิต

หากแต่เขาเปรียบกันไปเป็นเซลล์ เลย เปรียบเสมือนร่างกายเรา ทุกๆเซลล์ที่ก่อประกอบเป็น อวัยวะ อวัยวะหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น สมอง หัวใจ ตับ ไต ฯลฯ ล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิต และใช้วิธีการสื่อสาร เชื่อมโยงกันเป็นการประกอบกันเป็นร่างกาย ทุกอย่างมีการเชื่อมโยงกัน หากสิ่งแวดล้อมเกิดกระทบกับเซลล์ๆ หนึ่งในร่างกาย หากการสื่อสารผิดปกติ ก็จะกระทบกันเป็นระลอกคลื่นถึงกัน เป็นเรื่องเดียวที่เขาพูดถึงการทำงานเป็นทีม หากเราเข้าใจว่าเป็นส่วนหนึ่งขององค์รวม หากเราเข้าใจเป้าหมายไปคนละทิศคนละทางกับทีม หากทำเองก็ผิดทาง หากยิ่งไม่สื่อสารไม่เชื่อมโยงกับคนอื่นเลย ยิ่งไปกันใหญ่ งานใหญ่ๆ คนทำกันเยอะๆ จึงไม่ค่อยมีประสิทธิผลเท่าที่ควร นี่คือหัวใจของเรื่องการทำงานเป็นทีม โดยเฉพาะงานสาธารณะ งานที่ทำเพื่อประโยชน์ต่อคนอื่น ชุมชน สังคม และตัวเองก็ได้ประโยชน์นั้นด้วย เราจะเรียนรู้ในการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายอย่างไร

มีคำๆ หนึ่งที่มาทำงานเรื่องวัฒนธรรมองค์กร แล้วพบว่ามันเป็นหัวใจในการอยู่ร่วม คือคำว่า Holon และพบว่าคำๆ นี้มีความหมาย มีความสำคัญ เริ่มต้นเล็กๆ แก้ไขจุดเล็กๆ จะมีผลต่อทั้งหมดเอง เพราะมันมีความเชื่อมโยงกันอยู่

เลยเป็นคำ และทฤษฎี ที่พอเป็นแผนที่และถือเป็นคติในการใช้ชีวิต ครั้งหนึ่ง เคยคุยกับ อจ.วิศิษฐ์ เรื่องนี้ ขอแบ่งปันค่ะ

"Holon
หรือจุลจักรวาล


คำ ๆ นี้เป็นคำที่เคน วิลเบอใช้ อธิบายความเป็นไปในจักรวาลว่า เป็นเสี้ยวส่วนและลดหลั่่นกันขึ้นไป หรือลงมาเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้น ก็จะเป็นทั้งส่วนหนึ่งของชั้นต่อไป และในขณะเดียวกันก็เป็นทั้งหมด ในชั้นของตัวเอง


ประการต่อมา ส่วน/ทั้งหมด หรือ Holon นี้ มีความเชื่อมโยงกับระดับอื่น ๆ ชั้นอื่น ๆ ทั้งหมดอยู่อย่างสลับซับซ้อน แบบอิทัปปัจยตา หรือ ต่างดำรงอยู่ในกันและกัน ซึ่งการทำงานกับ Holon นี้ อาจส่งผลกระทบถึงระบบทั้งระบบ อันนี้ เหมือนเป็นกุญแจลับ ไปทำให้เราสามารถเข้าใจทฤษฎีระบบ หรือ System Theory ได้ดียิ่งขึ้น


นึกถึงนิทานตอลสตอย ที่ตอบคำถามที่ว่า เราจะทำอะไร เมื่อไร กับใคร ที่ไหน โดยเขาผูกเป็นเรื่องเล่าอันแยบคายนั้น ก็เป็นเรื่องเดียวกันนี้ เพราะเมื่อเราทำอะไรกับ Holon ที่อยู่ต่อหน้า หรือ ที่ผมนิยมเรียกในภาษาไทยว่า จุลจักรวาล นั้น ก็เท่ากับว่า เรากำลังกระทำกับจักรวาลทั้งหมด คือเมื่อทำกับส่วน ที่เป็นทั้งหมดในตัวของมันเองด้วยนั้น เรากำลังทำกับระบบทั้งระบบ ไม่ว่า มันจะซ้อนทับกันอยู่กี่ชั้น ก็ตาม ซึ่งที่จริงแล้ว มันก็เชื่อมโยงกันไปทั้งจักรวาลนั่นแหละ"

ล่าสุด อจ.วิศิษฐ์ พูดถึงเรื่องนี้อีกในเว็บบอร์ด

"จำได้ว่า เมื่อก่อนเมเคยอ่านเรื่อง uncommon wisdom ของฟริตจอบ คราปา เขาพูดถึงเบตสัน และพูดถึง pattern that connected หรือแบบแผนที่เชื่อมโยงติดต่อกัน เหมือนเรื่อง matrix เหมือนกัน แล้วเมก็ไปอ่านพบเร่ืองของเบตสันในหนังสือของเจเรมี เฮวาร์ดอีก เฮวาร์ดพูดเรื่องโฮลอน โฮลอนนี้ ภาษาอังกฤษคำว่า holon มาจากคำสองคำประกอบกัน ที่แปลได้ความว่า part และ whole หรือ ส่วน กับ องค์รวม หรือทั้งหมด ลองมาตามเรื่องนี้ดี ๆ นะครับ คือทุกระดับของสรรพสิ่ง โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตจะเห็นชัดมาก ทุกระดับจะเป็นส่วน และเป็นทั้งหมดด้วยเสมอ และในฐานะของส่วน ก็จะเชื่อมโยงอยู่กับสิ่งแวดล้อม หรือองค์กรในระดับที่ใหญ่กว่า ยกตัวอย่าง อวัยวะ ก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย หรือระบบชีวิตหนึ่ง ๆ ตัวมันเองในฐานะของความเป็น “ส่วน” มันก็สัมพันธ์กับอวัยวะอื่น ๆ ในฐานะที่เป็นส่วนเหมือนกัน และสัมพันธ์กับองค์รวมของระบบชีวิต หรือร่างกายทั้งหมดด้วย และในฐานะที่เป็น “ทั้งหมด” หรือ “องค์รวม” อวัยวะนั้น ๆ ก็เป็นองค์รวม เป็นทั้งหมดในตัวของมันเอง และมันไล่เลียงไปเช่นนี้ในทุกระดับ ไปจนถึงจักรวาล ด้วยการจัดองค์กรเช่่นนี้ จักรวาลทั้งจักรวาลจึงเป็นเครือข่ายโยงใยถึงกันหมด เมื่อเกิดอะไรขึ้นในโฮลอนใดก็ตาม และสามารถเทียบเคียงได้กับอีทัปปจยตาทางพุทธศาสนา


ทีนี้คำว่า pattern that connected หรือแบบแผนที่เชื่อมโยง นั้นก็แปลว่า ทุกโฮลอนมันก็จะเชื่อมโยงกับทุก ๆ โฮลอนนั่นเอง และการเชื่อมโยงถึงกันทั้งหมดเลยนั้น ทำให้ทุกโฮลอนก็เหมือนกระจกเงาของจักรวาล ผมเลยเรียกโฮลอนอีกชื่อหนึ่งว่า “จุลจักรวาล” ลองใคร่ครวญเรื่องนี้ต่อไปพลาง ๆ นะครับ ผมว่า เป็นเรื่องที่สำคัญมากเรื่องหนึ่งเลยล่ะ"

เรียนรู้แผนที่แล้ว เหลือแต่ว่า เราเดินไปอย่างไรตามแผนทีนั้น เซลล์แต่ละเซลล์เชื่อมโยงสัมพันธ์กันอย่างไร ในการเดินทาง

เรื่องนี้หากเราเข้าใจ เราทำกับร่างกายและจิตใจของเราได้จริง เราย่อมเข้าใจการทำงานเป็นทีมร่วมกับคนอื่นได้จริงเหมือนกัน

เรื่องบางเรื่องอยู่เหนือการควบคุมจัดการ ให้พิจารณาเพื่อเข้าใจ
แก้ปัญหาบางเรื่อง อาจคลี่คลายอีกเรื่อง เพราะมันเชื่อมโยงกันอยู่

ถือเป็นเรื่องสนุก ในการเกิดมาแล้วได้ทำงาน ร่วมกับผู้คน ทุกครั้งที่รู้ว่าหลงทางไปบ้าง บอกกับตัวเองว่าโชคดีที่รู้ ถือว่าได้ประสบการณ์และได้เรียนรู้ชีวิตทุกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น